- คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มนุษย์ได้คิดประดิษฐ์ขึ้น
เพื่อนำมาเสริมความสามารถของมนุษย์ในด้านการับรู้
การจำ การคำนวณ การเปรียบเทียบตัดสินใจ
และการแสดงออก
ดังนั้นคอมพิวเตอร์จึงมีโครงสร้างที่ประกอบด้วยส่วนต่าง
ๆ
ให้สามารถทำงานเป็นระบบสนองความต้องการของมนุษย์
- การประมวลผลข้อมูลของคอมพิวเตอร์จะประกอบด้วยอุปกรณ์รับเข้า
(input device)
เพื่อรับข้อมูลและคำสั่งจากผู้ใช้ภายนอกเข้าไปเก็บอยู่ในอุปกรณ์เก็บข้อมูลหรือหน่วยความจำหลัก
(main memory)
คำสั่งที่เก็บในส่วนความจำหลักจะถูกนำไปตีความ
และสั่งทำงานที่หน่วยประมวลผลกลาง
ที่เรียกว่า ซีพียู
ซึ่งเป็นหัวใจของการทำงานในคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่คำนวณและเปรียบเทียบข้อมูลที่เก็บในหน่วยความจำหลัก
ผลจากการคำนวณหรือประมวลผลจะนำกลับไปเก็บยังหน่วยความจำหลัก
และพร้อมที่จะนำออกแสดงที่อุปกรณืส่งออก
(output device)
กลับไปสู่ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อไป
ดังนั้นระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย ซีพียู
หน่วยความจำ อุปกรณ์รับเข้า
และอุปกรณ์ส่งออก
- ส่วนรับข้อมูล
1.
แป้นพิมพ์ หรือ Keyboard คีบอร์ด
เป็นอุปกรณ์รับเข้าพื้นฐานที่ต้องมีในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะรับข้อมูลจากการกดแป้นแล้วทำการเปลี่ยนเป็นรหัสเพื่อส่งต่อไปให้กับคอมพิวเตอร์
แป้นพิมพ์ที่ใช้ในการป้อนข้อมูลจะมีจำนวนตั้งแต่
50 แป้นขึ้นไป
แผงแป้นอักขระส่วนใหญ่มีแป้นตัวเลขแยกไว้ต่างหาก
เพื่อทำให้การป้อนข้อมูลตัวเลขทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น
- การวางตำแหน่งแป้นอักขระ
จะเป็นไปตามมาตรฐานของระบบพิมพ์สัมผัสของเครื่องพิมพ์ดีด
ที่มีการใช้แป้นยกแคร่ (shift)
เพื่อทำให้สามารถใช้พิมพ์ได้ทั้งตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก
ซึ่งระบบรับรหัสตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ใช้ในทางคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะเป็นรหัส
7 หรือ 8 บิต กล่าวคือ เมื่อมีการกดแป้นพิมพ์
แผงแป้นอักขระจะส่งรหัสขนาด 7 หรือ 8 บิต
นี้เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์
- เมื่อนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้งานพิมพ์ภาษาไทยจึงต้องมีการดัดแปลงแผงแป้นอักขระให้สามารถใช้งานได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย
กลุ่มแป้นที่ใช้พิมพ์ตัวอักษรภาษาไทยจะเป็นกลุ่มแป้นเดียวกับภาษาอังกฤษ
แต่จะใช้แป้นพิเศษแป้นหนึ่งทำหน้าที่สลับเปลี่ยนการพิมพ์ภาษาไทย
หรือภาษาอังกฤษภายใต้การควบคุมของซอฟต์แวร์อีกชั้นหนึ่ง
- แผงแป้นอักขระสำหรับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ตระกูลไอบีเอ็มที่ผลิตออามารุ่นแรก
ๆ ตั้งแต่ พ.ศ. 2524 จะเป็นแป้นรวมทั้งหมด 83
แป้น ซึ่งเรียกว่า แผงแป้นอักขระพีซีเอ็กซ์ที
ต่อมาในปี พ.ศ. 2527
บริษัทไอบีเอ็มได้ปรับปรุงแผงแป้นอักขระ
กำหนดสัญญาณทางไฟฟ้าของแป้นขึ้นใหม่
จัดตำแหน่งและขนาดแป้นให้เหมาะสมดียิ่งขึ้น
โดยมีจำนวนแป้นรวม 84 แป้น เรียกว่า
แผงแป้นอักขระพีซีเอที
และในเวลาต่อมาก็ได้ปรับปรุงแผงแป้นอักขระขึ้นพร้อม
ๆ กับการออกเครื่องรุ่น PS/2 โดยใช้สัญญาณทางไฟฟ้า
เช่นเดียวกับแผงแป้นอักขระรุ่นเอทีเดิม
และเพิ่มจำนวนแป้นอีก 17 แป้น รวมเป็น 101
แป้น
- การเลือกซื้อแผงแป้นอักขระควรพิจารณารุ่นใหม่ที่เป็นมาตรฐานและสามารถใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่
- สำหรับเครื่องขนาดกระเป๋าหิ้วไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อปหรือโน้ตบุ๊ค
ขนาดของแผงแป้นอักขระยังไม่มีการกำหนดมาตรฐาน
เพราะผู้ผลิตต้องการพัฒนาให้เครื่องมีขนาดเล็กลงโดยลดจำนวนแป้นลง
แล้วใช้แป้นหลายแป้น
- พร้อมกันเพื่อทำงานได้เหมือนแป้นเดียว
2. เม้าท์ Mouse
- ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ที่พัฒนาในระยะหลัง ๆ นี้
สามารถติดต่อกับผู้ใช้โดยการใช้รูปกราฟิกแทนคำสั่ง
มีการใช้งานเป็นช่วงหน้าต่าง
และเลือกรายการหรือคำสั่งด้วยภาพ
หรือสัญรูป (icon)
อุปกรณ์รับเข้าที่นิยมใช้จึงเป็นอุปกรณ์ประเภทตัวชี้ที่เรียกว่า
เมาส์เมาส์เป็นอุปกรณ์ที่ให้ความรู้สึกที่ดีต่อการใช้งาน
ช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้นด้วยการใช้เมาส์เลื่อนตัวชี้ไปยังตำแหน่งต่าง
ๆ บนจอภาพ
ในขณะที่สายตาจับอยู่ที่จอภาพก็สามารถใช้มือลากเมาส์ไปมาได้
ระยะทางและทิศทางของตัวชี้จะสัมพันธ์และเป็นไปในแนวทางเดียวกับการเลื่อนเมาส์
- เมาส์แบ่งได้เป็นสองแบบคือ
แบบทางกลและแบบใช้เแสง
แบบทางกลเป็นแบบที่ใช้ลูกกลิ้งกลม
ที่มีน้ำหนักและแรงเสียดทานพอดี
เมื่อเลื่อนเมาส์ไปในทิศทางใดจะทำให้ลูกกลิ้งเคลื่อนไปมาในทิศทางนั้น
ลูกกลิ้งจะทำให้กลไกซึ่งทำหน้าที่ปรับแกนหมุนในแกน
X และแกน Y
แล้วส่งผลไปเลื่อนตำแหน่งตัวชี้บนจอภาพ
เมาส์แบบทางกลนี้มีโครงสร้างที่ออกแบบได้ง่าย
มีรูปร่างพอเหมาะมือ
ส่วนลูกกลิ้งจะต้องออกแบบให้กลิ้งได้ง่ายและไม่ลื่นไถล
สามารถควบคุมความเร็วได้อย่างต่อเนื่องสัมพันธ์ระหว่างทางเดินของเมาส์และจอภาพ
เมาส์แบบใช้แสงอาศัยหลักการส่งแสงจากเมาส์ลงไปบนแผ่นรองเมาส์
(mouse pad)
แผ่นรองเมาส์ซึ่งเป็นตาราง (grid) ตามแนวแกน X
และ Y
เมื่อเลื่อนตัวเมาส์เคลื่อนไปบนแผ่นตารางรองเมาส์ก็จะมีแสงตัดผ่านตารางและสะท้อนขึ้นมาทำให้ทราบตำแหน่งที่ลากไปเมาส์แบบนี้ไม่ต้องใช้ลูกกลิ้งกลม
แต่ต้องใช้แผ่นตารางรองเมาส์พิเศษ
การใช้เมาส์จะเป็นการเลื่อนเมาส์เพื่อควบคุมตัวชี้บนจอภาพไปยังตำแหน่งที่ต้องการแล้วทำการยืนยันด้วยการกดปุ่มเมาส์
ปุ่มกดบนเมาส์มีความแตกต่างกัน
สำหรับเครื่องแมคอินทอช ปุ่มกดเมาส์จะมีปุ่มเดียว
แต่เมาส์ที่ใช้กับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ตระกูลไอบีเอ็มส่วนใหญ่จะมี
2 ปุ่ม
โดยทั่วไปปุ่มทางซ้ายใช้เพื่อยืนยันการเลือกรายการและปุ่มทางขวาเป็นการยกเลิกรายการ
เมาส์บางยี้ห้ออาจเป็นแบบ 3 ปุ่ม
ซึ่งเราไม่ค่อยพบในเครื่องระดับพีซี
ส่วนใหญ่จะเป็นเมาส์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นสถานีงานวิศวกรรม
การเลือกซื้อเมาส์ควรพิจาณาจำนวนปุ่มให้ตรงกับความต้องการของซอฟต์แวร์
ในระดับเครื่องพีซีแนะนำให้ใช้เมาส์แบบสองปุ่มเพราะซอฟต์แวร์เกือบทั้งหมดสนับสนุนใช้งานเมาส์ประเภทนี้
|
3. สแกนเนอร์ Scanner

สแกนเนอร์ คืออุปกรณ์ซึ่งจับภาพและเปลี่ยนแปลงภาพจากรูปแบบของแอนาลอกเป็นดิจิตอลซึ่งคอมพิวเตอร์
สามารถแสดง, เรียบเรียง,
เก็บรักษาและผลิตออกมาได้
ภาพนั้นอาจจะเป็นรูปถ่าย,
ข้อความ, ภาพวาด
หรือแม้แต่วัตถุสามมิติ
สามารถใช้สแกนเนอร์ทำงานต่างๆได้ดังนี้
-
ในงานเกี่ยวกับงานศิลปะหรือภาพถ่ายในเอกสาร
-
บันทึกข้อมูลลงในเวิร์ดโปรเซสเซอร์
-
แฟ็กเอกสาร ภายใต้ดาต้าเบส และ
เวิร์ดโปรเซสเซอร์ -
เพิ่มเติมภาพและจินตนาการต่าง ๆ
ลงไปในผลิตภัณฑ์สื่อโฆษณาต่าง
ๆ |
อุปกรณ์ในส่วนรับข้อมูลทั้งหมด

อุปกรณ์ในส่วนแสดงผล

1. จอภาพ Monitor
แบบซีอาที
CRT

แบบ
แอลซีดี LCD

2. พริ้นเตอร์ Printer
หน่วยประมวลผล
CPU

การทำงานของคอมพิวเตอร์
ใช้หลักการเก็บคำสั่งไว้ที่หน่วยความจำ
ซีพียูอ่านคำสั่งจากหน่วยความจำมาแปลความหมายและกระทำตามเรียงกันไปทีละคำสั่ง
หน้าที่หลักของซีพียู
คือควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ทั้งระบบ
ตลอดจนทำการประมวลผล
- กลไกการทำงานของซีพียู
มีความสลับซับซ้อน
ผู้พัฒนาซีพียูได้สร้างกลไกให้ทำงานได้ดีขึ้น
โดยแบ่งการทำงานเป็นส่วน ๆ
มีการทำงานแบบขนาน
และทำงานเหลื่อมกันเพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น

